Wednesday, October 8, 2014

เรื่องที่ 23: Lost in Translation

เรื่องที่ 23: Lost in Translation-ดูที่บ้าน-ดูคนเดียว
หนังที่ดูเหมือนจะไม่เหงา แต่ตอนดูนี่นั่งกอดเข่ากลิ้งไปกลิ้งมาอย่างปวดร้าว ดูจบก็จิตหลุด TT

หนังที่เทรเลอร์ดูเหมือนหนังตลกฮอลลีวู้ดธรรมดา พอดูไปก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเหงาหรือเปลี่ยวอะไรขนาดนั้น แต่พอทั้งหมดมารวมกันแล้วดันจบเหงาแบบลอยไปเลย เป็นหนังที่ชวนติดตามมาก ดูแล้วจะเพลินๆอยากรู้ว่าเดี๋ยวจะมีอะไรต่อ หลายๆฉากอยู่ดีๆก็จบไป เช่นฉากที่ไปวัด ก็จบลอยๆ ยังคิดตามไม่ทันเลย ได้ฟีลอินดี้ๆฮอลลีวู้ดๆ งงๆนิดนึง หนังเรื่องนี้เน้นเรื่องความละเลยของคนที่เราสนทนาด้วยบ่อยๆ เช่นเพื่อนที่ชาร์ล็อตต์โทรไปหา อยู่ดีๆก็บอกให้ถือสายรอ ภรรยาของบ็อบ ที่ทุกครั้งที่โทรมาบทสนทนาก็จะจบแบบห้วนๆ จนบ็อบก็เบื่อที่จะคุย เป็นหนังที่ดูแล้วก็ยังสลัดเอาความเหงาออกไปได้ไม่หมด ถ้ายังคงคิดตามไปเรื่อยๆ ภาพสวยดี ชอบฉากที่ยืนดูเจ้าสาวแล้วยิ้ม มันตีความได้ว่ายังไงก็ไม่รู้นะ แต่รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง สีก็สวยดี ฉากจบคือสุดแล้ว คือดูๆไปนั่งขดตัว รู้สึกปวดร้าวแทนตัวละครไปตลอดเวลา ความผูกพันของคนต่างวัย ต่างคนต่างแต่งงานแล้ว สถานภาพที่เป็นได้แค่เพื่อน ทั้งหมดมารวมๆกันแล้วอธิบายคำว่า Lost ได้ชัดเจนมาก




No comments:

Post a Comment